เส้นทางระบาดไข้ไวรัสโควิดในอิตาลี

หลังจากประเทศอิตาลีได้รับเชื้อการแพร่ระบาดจากไข้ไวรัสโควิด19 นั้น อัตราการป่วยของผู้ติดเชื้อไข้ไวรัส และอัตรการเสียชีวิตของประชาชนอิตาลี เพิ่มขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดปรากฎการณ์ล้มตายเป็นใบไม้ร่วงในอิตาลี ซึ่งหากเราย้อนคิดกลับไปและลองตรวจสอบเส้นการแพร่ระบาดนี้ของประเทศอิตาลี เริ่มต้นจากผู้ป่วยคนแรกของประเทศเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์

ซึ่งในช่วงสัปดาห์แรกที่มีผู้ป่วยติดเชื้อนั้น ทางรัฐบาลอิตาลียังคงดูไม่แตกตื่น และยังไม่ได้หามาตรการป้องกันไข้ไวรัสนี้แต่อย่างใด ซึ่งผู้ติดเชื้อหมายเลขหนึ่ง คนนี้เป็นชายก่อสร้างวัย สามสิบแปดปี เข้าได้ไปหาหมอที่เมืองโคโดนจ์โญ ในจังหวัดลอดี แคว้นลอมบาร์ดี ด้วยอาการไข้หวัดใหญ่ และหมอไม่ได้ให้เค้านอนโรงพยาบาลและกลับมารักษาตัวที่บ้าน

แต่จากนั้นอีกไม่กี่ชั่วโมงอาการของเค้าเริ่มทรุดหนัก และเขาได้กลับไปหาหมออีกครั้ง และถูกส่งเข้าห้องไอซียู และทางโรงพยาบาลทำการตรวจพบว่า เค้าติดไข้โคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งจากการถามไถ่ผู้ป่วยและสอบสวนนั้นพบว่า ในเดือนนั้นก่อนที่เค้าจะไปหาหมด เค้าได้ใช้ชีวิตปรกติทั่วไป และพบสัมผัสผู้คนมากมาย ไปงานเลี้ยงสามงานเลี้ยง และลงเล่นกีฬาฟุตบอล และวิ่งกับเพื่อนร่วมทีม ซึ่งแพทย์สันนิษฐานว่าช่วงนั้นอาจจะเป็นช่วงของการปล่อยเชื้อแพร่ระบาดให้ออกไปสู่วงกว้าง

อีกทั้งการเข้าโรงพยาบาลมาหาหมอรอบสองนั้น ด้วยความที่ทางแพทย์ไม่ทราบว่าอาการของผู้ป่วยนั้นเกิดจากสาเหตุใด จึงทำให้แพทย์และพยาบาลชุดนั้นติดไข้ไวรัสนี้ไปด้วย เพียงแต่ว่าคนทุกคนที่เค้าสัมผัสและสัมผัสเค้านั้น อาการของไข้ไวรัสตัวนี้ยังไม่แสดงผลออกมา ซึ่งน่าแปลกที่ชายผู้นี้ไม่เคยไปประเทศจีน ซึ่งเป็นประเทศแรกที่พบผู้ติดเชื้อไวรัสตัวนี้

ซึ่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสันนิษฐานได้ว่าอาจจะติดเชื้อจากคนในยุโรปนี้ด้วยกันเอง ซึ่งเวลานี้การตามรอยก็ยังไม่พบผู้ป่วยหมายเลขศูนย์คนนั้น ซึ่งองค์การอนามัยโลกระบุว่า ที่แท้จริงของการตามหาผู้ป่วยหมายเลขศูนย์ หรือผู้ป่วยที่มาหาหมอหมายเลขหนึ่งนั้น แท้จริงพวกเค้าอาจะเป็นผู้ป่วยหมายเลยสองร้อยแล้วก็ได้

ซึ่งไม่ว่าเส้นทางการระบาดของประเทศอิตาลีจะเริ่มต้นมาจากที่ใด ประเด็นที่สำคัญไปกว่านั้นเมื่อมีผู้ป่วยติดเชื้อไข้ไวรัสนี้และตรวจเจอเป็นคนแรกของประเทศแล้วนั้น ทางผู้นำอิตาลีกลับไม่ได้มีปฏิกิริยาหรือทีท่าในการตื่นตัวและเตรียมพร้อมที่จะแก้ไขและรับมือกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นตามมาแต่อย่างใด นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดวิกฤติการณ์นี้ที่ประเทศอิตาลี ในปัจจุบัน